WHO ชี้ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการระบาด ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก 8.78% และเสียชีวิตเหลือ 8.53% ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 10,935 คน ลดลง 22% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ด้านสถานการณ์ ”ฝีดาษวานร” ดีขึ้นเช่นกัน สธ.ปรับลดระดับการเฝ้าระวัง
วันนี้ (19 ก.ย. 2565) ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยลดลงต่ำสุดในรอบปี 2565 พบเชื้อจากการตรวจ RT-PCR เหลือ 242 คน เสียชีวิต 11 คน โดย นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุขวุฒิสภา กล่าวว่า นับจากประเทศไทยพบไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนปลายปี 2564 และทยอยพบมากขึ้นเป็นลำดับ จนกลายเป็นสายพันธุ์หลักของไทย พบว่าตลอดปี 2565 มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในระบบผู้ป่วยหนัก และเสียชีวิตพบสูงสุดในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนปี 2565
อย่างไรก็ตามมีตัวแปรที่จะต้องรับทราบคือการรายงานที่เปลี่ยนแปลงไปของจำนวนผู้ติดเชื้อซึ่งจะรายงานผู้ติดเชื้อ RT-PCR เฉพาะที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และเฉพาะผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยตรง
กล่าวโดยสรุปสถานการณ์ขณะนี้ ติดเชื้อรวม 19.25% รักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก 8.78% และเสียชีวิตเหลือ 8.53% จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับหลักวิชาการของไวรัสโอมิครอน คือความรุนแรงลดลงอย่างชัดเจน จากผู้เสียชีวิตที่ลดลงมาก
“แต่หากให้เบาใจในเรื่องการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ยังต้องระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อโดยการใส่หน้ากากอนามัยในกิจกรรมเสี่ยง และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น”
นพ.เฉลิมชัย กล่าว
สถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยสอดคล้องกับความเห็นของ นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2565 ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วและขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันยับยั้งไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก
จุดจบของโควิด-19 อยู่ไม่ไกล พร้อมชี้ให้เห็นว่า ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงสู่ระดับเดียวกับเมื่อเดือนมี.ค. 2563 ระหว่างวันที่ 5-11 ก.ย. มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 10,935 คนทั่วโลก ลดลง 22% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์ดังกล่าวลดลง 28% สู่ระดับ 3.13 ล้านคน
“ตอนนี้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี และกำลังใกล้เข้าสู่เส้นชัยแล้ว”
นพ.กีบรีเยซุส กล่าว
ลดการแจ้งเตือน ฝีดาษวานร ระบาด
นอกจากการระบาดโควิด-19 ที่มีแนวโน้วใกล้ถึงจุดสิ้นสุด วันนี้ (19 ก.ย.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง สถานการณ์โรคฝีดาษวานร ว่า กระทรวงสาธารณสุข จะลดระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข จากระดับกระทรวงเป็นระดับกรม หลังพบแนวโน้มผู้ป่วยทั่วโลกลดลง ขณะที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยเพียง 8 คน เฉลี่ยเดือนละ 2 คน ส่วนหนึ่งติดเชื้อก่อนเดินทางกลับประเทศ ย้ำยังเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หากพบผู้ป่วยสงสัยยังต้องส่งตรวจห้องปฏิบัติการและรายงานผลการสอบสวนโรค
แม้จะลดระดับศูนย์ EOC มาเป็นระดับกรม แต่โรคฝีดาษวานรยังเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้น เมื่อพบผู้ป่วยต้องสงสัยยังต้องรายงานและมีการสอบสวนโรค ซึ่งจากการวิเคราะห์จำนวนการส่งตรวจ ทางห้องปฏิบัติการ พบว่า มีผู้ป่วยที่ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแต่ไม่ได้มีการรายงานการสอบสวนโรคมาที่กรมควบคุมโรค จึงขอให้โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศ รายงานกรณีพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการติดตามสถานการณ์โรคต่อไป