ชี้พื้นที่ กทม. มีผู้ป่วยเข้ารักษามากกว่า 1,000 คนต่อวัน อัตราครองเตียงกว่า 42% หนุนเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดรองรับการรักษา
วันนี้ (17 ก.ค.65) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ซึ่ง กทม.ถือเป็นพื้นที่เปราะบางและมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดมากกว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากเป็นเมืองขนาดใหญ่ มีประชากร มีการเดินทาง และมีกิจกรรมต่าง ๆ จำนวนมาก ดังนั้น จึงเชิญ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปค.สธ.) ในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค.นี้ เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จะขอความร่วมมือในการดำเนินการ 2 ส่วน คือ การลด ละ เลิก กิจกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่เชื้อ ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร สามารถออกมาตรการต่าง ๆ ภายในพื้นที่ให้มีความเหมาะสมได้
อีกส่วนคือการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล โดยปัจจุบันมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประมาณ 2,000 คนต่อวัน และกว่าครึ่งอยู่ในพื้นที่ กทม. คือประมาณ 1,000 กว่าคน ส่วนเตียงผู้ป่วยโควิดอาการสีเหลือง และสีแดง หรือเตียงระดับ 2-3 ภาพรวมทั้งประเทศมีการใช้ประมาณ 13%
แต่ กทม. มีอัตราครองเตียงกว่า 42% ส่วนหนึ่งเกิดจากการคืนเตียงโควิดกลับไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ทำให้ ต้องเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการเตียงให้เพียงพอ ซึ่งโรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. มีหลากหลายสังกัด ทั้งของกทม. กรมการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ ทหาร ตำรวจ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน จึงต้องประสานความร่วมมือเพื่อช่วยกันรองรับสถานการณ์ โดยมี กทม.เป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมความพร้อม และกระทรวงสาธารณสุขให้การสนับสนุนในทุกด้านอย่างเต็มที่ สำหรับประชาชนยังคงต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง
“เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และมารับวัคซีนให้ครบ 3 เข็ม รวมถึงรับเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน จะช่วยป้องกันอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้”