นักวิชาการ วิเคราะห์แนวโน้มน้ำปีนี้มากกว่าปีที่แล้วร้อยละ 10 คาดน้ำท่วมขังต่อเนื่องตั้งแต่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ หลังก.ย. เริ่มท่วมนครสวรรค์ เตรียมจับตาพายุซ้ำเติมสถานการณ์
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/08/295946651_584283763371032_5550094576447041547_n-1-1-1024x785.jpg)
GISTDA เผยภาพจากดาวเทียมไทยโชต บริเวณพื้นที่อำเภอหล่มเก่าและอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ของวันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 เวลา 10.25 น. พบพื้นที่น้ำท่วมขังรวมแล้วกว่า 19,900 ไร่ แบ่งเป็นอำเภอหล่มเก่า จำนวน 6,900 ไร่ และอำเภอหล่มสัก จำนวน 13,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่ลุ่มต่ำ และริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ตลอดจนชุมชนที่อยู่อาศัย และเส้นทางคมนาคมบางส่วน
ขณะนี้ GISTDA ได้ส่งต่อข้อมูลภาพจากดาวเทียมให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน การติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขังในช่วงนี้ GISTDA ได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://flood.gistda.or.th
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/08/S__34251535.jpg)
ผศ.ภาณุวัฒน์ ปิ่นทอง หัวหน้าศูนย์วิจัยวิศวกรรมน้ำและโครงสร้างพื้นฐาน และอาจารย์ประจำ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ 2565 นี้มีแนวโน้มจะมากกว่าปีที่แล้ว(2564) อยู่ประมาณ ร้อยละ 10
นั้นหมายความว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม เราจะมีเหตุการณ์น้ำท่วมขังบางพื้นที่ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่จังหวัด อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ พอเดือนกันยายนจะเริ่มมีน้ำท่วมที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดทางภาคกลาง ขณะที่การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มระบายเพิ่ม ซึ่งอาจมากถึง 1,000-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำหลายแห่งกระทบน้ำท่วมได้ อีกทั้งในช่วงนี้ยังคงต้องจับตาพายุที่จะเข้าในช่วงนี้ด้วยหากมีพายุพัดเข้ามาถี่ต่อเนื่องอาจทำให้หลายพื้นที่ภาคกลางท่วมขัง และอาจมากกว่าปีที่แล้ว
ส่วนกรุงเทพมหานครเมืองปลายน้ำอาจต้องรับมือเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำเหนือที่หลากมา ขณะเดียวกันยังมีน้ำฝนในพื้นที่ และน้ำทะเลหนุน โดยมีการคาดการณ์กันด้วยว่าเดือนสิงหาคมนี้ ไปจนถึงเดือนกันยายนฝนจะเพิ่มมากขึ้นซึ่ง กทม.จะมีปริมาณฝนสูงกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 10 เช่นกัน