ย้ำชัดมีกฎหมายเพื่อสนับสนุน การทำงานภาคประชาชน ชี้ในต่างประเทศก็ใช้แนวทางนี้ เตรียมเปิดรับฟังความเห็น พร้อมเปิดพื้นที่รับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/01/948DEA53-266D-43A2-9E73-0477E1424CE6-1024x682.jpeg)
วันนี้ (5 ม.ค.65) พัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบแนวทางการยก ร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. ของคณะกรรมการกฤษฎีกา และมอบหมายให้ พม. รับร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างกฎหมายตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ. หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ก่อนเสนอ ครม. ต่อไป
“ขอยืนยันว่า เราทำงานคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องอาศัยภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เราต้องร่วมมือในการขับเคลื่อนงานด้วยกันมาโดยตลอด”
สำหรับความจำเป็นที่ต้องมีร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ทำให้ต้องออกร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีที่ได้รับรองไว้ ซึ่งหลายประเทศมีกฎหมายลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
อีกทั้งองค์กรภาคประชาสังคม ที่มีผลงานเชิงประจักษ์จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณและการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้บริจาคให้กับองค์กรนั้น ๆ เพื่อเป็นการรับประกันความโปร่งใสในการบริหารงานขององค์กร เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริจาคว่าองค์กรจะนำเงินและสิ่งของที่บริจาคนั้น ไปใช้เพื่อประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ เบื้องต้น ครม.ได้รับร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว และมอบหมายให้พม. ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบก่อนเสนอ ครม. ต่อไป และร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ยังสามารถแก้ไขได้ในชั้นกรรมาธิการทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่ง พม. พร้อม รับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนเพื่อเสนอต่อ ครม. พิจารณาต่อไป
ย้ำท่าทีรัฐเมินประชาชนเป็นหุ้นส่วนพัฒนา
ก่อนหน้านี้ ภาคประชาชนหลายองค์กร ได้แสดงออกถึงการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งเป็นฉบับที่ปรับปรุงมาจากร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมความเข้มแข็งองค์กรภาคประชาสังคม ของ พม. ซึ่งเดิมมีเนื้อหาส่งเสริมการทำงานขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ฉบับล่าสุดที่เข้า ครม.นั้น สุนทรีย์ หัตถี เซ่งกิ่ง เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ตั้งข้อสังเกต ว่า มีเนื้อหาควบคุมการทำงานของภาคประชาสังคม
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/01/302951-1024x768.jpg)
เช่น องค์กรไม่แสวงหากำไร จำเป็นต้อง จดแจ้งการเป็นองค์กร กับ พม., ต้องเปิดเผยที่มาและจำนวนเงินต่อสาธารณะ โดยองค์กรที่รับเงินทุนต่างประเทศ จะต้องแจ้งตั้งแต่ต้น ว่า จะนำเงินทุนไปทำกิจกรรมอะไรบ้าง และต้องไม่เข้าข่ายกระทบความมั่นคงของรัฐ เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสงบ ไม่เช่นนั้นจะถูกเรียกสอบ สั่งปรับ โดยจะต้องรับโทษทั้งองค์กร ตัวผู้ดำเนินงาน และกรรมการ
จึงเป็นที่มาให้ องค์กรภาคประชาสังคม ออกหนังสือคัดค้าน ของให้ทบทวนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว โดยเครือข่ายภาคประชาชน เห็นว่า เป็นการกระทำที่ ขัดกับหลักรัฐธรรมนูญที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามมาตรา 77 และขัดหลักเสรีภาพการรวมกลุ่ม โดยเครือข่ายภาคประชาชน ย้ำว่า สิ่งที่ควรตรวจสอบมากกว่าองค์กรแสวงหาผลกำไร คือ ภาครัฐ
“ตลอดการทำงานที่ผ่านมาขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร มีการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ อยู่แล้ว โดยเห็นว่า ท่าทีรัฐเวลานี้ ค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่ได้มองว่า ภาคประชาสังคมเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา”