เรียกร้องปล่อยตัว “บารมี ชัยรัตน์” เลขาธิการสมัชชาคนจน พร้อมทนายอานนท์และแกนนำ นศ. ด้าน 137 คน ภาคประชาสังคมแถลงหนุนเคลื่อนไหว เช้านี้ จับเพิ่ม แรปเปอร์ประเทศกูมี ร่วมชุมนุมเยาวชนปลดแอก
วันนี้ (20 ส.ค.2563) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทวีตข้อความระบุว่า ‘เดชาธร บำรุงเมือง’ หรือ ฮอคกี้ Hockhacker ศิลปินแรปเปอร์จาก Rap Against Dictatorship ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตามหมายจับ ขณะนี้กำลังถูกนำตัวไป สภ.สมุทรปราการ เพื่อทำบันทึกประจำวัน จากนั้นจะพาส่ง สน.สำราญราษฏร์
หลังจากเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ตำรวจควบคุมตัว อานนท์ นำภา ซึ่งถูกจับกุมที่หน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก ไปที่สน.ชนะสงคราม ส่วน บารมี ชัยรัตน์, สุวรรณา ตาลเหล็ก และกรกช แสงเย็นพันธ์ ถูกคุมตัวที่ สน.สำราญราษฎร์ หลังถูกแจ้งข้อหามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการปราศรัย
ด้าน สมัชชาคนจน ออกแถลงการณ์สนับสนุนข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอก และเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีต่อนายบารมี ชัยรัตน์ และแกนนำนักเรียนนักศึกษาทุกคน โดยแถลงการณ์ระบุว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อรัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช. ได้ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือคุกคามปิดปากคนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ผู้นำแรงงาน นักกิจกรรมทางการเมือง รวมถึงผู้นำของคนจน และสมัชชาคนจนเห็นว่า ไม่อาจจะยอมรับการคุกคามประชาชนได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังระบุถึงปัญหาการไล่รื้อคนจนออกจากที่ทำกิน แย่งชิงทรัพยากรดิน-น้ำ-ป่า เพื่อสร้างเขื่อน ทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ และอื่น ๆ โดยไม่เคยแก้ไขปัญหาของคนจนอย่างจริงใจ อีกทั้งถูกเจ้าหน้าที่รัฐติดตาม คุกคาม ข่มขู่ สกัดกั้นไม่ให้เรียกร้องความเป็นธรรม รวมถึงถูกกลั่นแกล้งทางกฎหมายต่างๆ นานา เพื่อสร้างภาระ และกีดกันการเข้าถึงความยุติธรรม
สมัชชาคนจนเห็นว่า ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการของกลุ่มเยาวชนปลดแอก สอดคล้องกับจุดยืนของสมัชชาคนจน เพราะคนจนถูกผู้มีอำนาจในนามของรัฐข่มขู่คุกคามเสมอมา จึงสนับสนุนให้ยุบสภาเพื่อให้มีผู้แทนราษฎรและรัฐบาลที่มาจากประชาชนเข้ามาแก้ไขปัญหาของคนจน และต้องการรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็น “ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน” อย่างที่เราเรียกร้องเสมอมา
แต่ นายบารมี ชัยรัตน์ เลขาธิการของสมัชชาคนจน ถูกจับกุมดำเนินคดีเพียงเพราะใช้สิทธิและเสรีภาพตามกฎหมายในการเข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบดังกล่าว ซึ่งการกระทำของรัฐเป็นการคุกคามสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอันเป็นหลักการของระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายบารมี ชัยรัตน์ และแกนนำที่ถูกจับกุมในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งยุติการคุกคามดำเนินคดีแกนนำทุกคน สมัชชาคนจนพร้อมที่จะเคลื่อนไหว และปักหลักชุมนุมยืดเยื้อที่กรุงเทพมหานคร หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ในทันที ต่อข้อเรียกร้องของเรา
ภาคประชาสังคมแถลงหนุนเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย-การพัฒนาที่ยั่งยืน
ด้านคนทำงานภาคประชาสังคม 137 คน ร่วมลงชื่อออกแถลงการณ์สนับสนุนข้อเสนอและการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและการพัฒนาที่ยั่งยืนของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน
แถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะส่วนหนึ่งของภาคประชาสังคมที่ทำงานเกี่ยวข้องกับมิติการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเด็นต่าง ๆ เช่น ปัญหาครอบครัวและความเสมอภาคทางเพศ ความเหลื่อมล้ำและความยากจน แรงงาน รัฐสวัสดิการ เกษตรกรรมและความมั่นคงทางอาหาร การค้ากับการพัฒนา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีความเห็นพ้องกันว่า การก่อรัฐประหารโดยหวังอำนาจของกองทัพและชนชั้นนำบางกลุ่ม เพื่ออ้างเหตุคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมานั้น เป็นต้นเหตุในการทำลายสถาบันทางการเมือง ระบบยุติธรรม และการบริหารประเทศให้เสื่อมทรามลง
กลุ่มประชาสังคมเพื่อประชาธิปไตยและการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงขอสนับสนุนข้อเรียกร้องของเครือข่ายนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ที่มีข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ รวมทั้ง ขอต่อต้านการก่อรัฐประหารโดยอ้างเหตุวิกฤตทางการเมืองซึ่งจะทำให้ประเทศนี้พังทลาย ล้าหลังกลายเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตไม่รู้จักจบสิ้น เช่นเดียวกันกับการสมยอมตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อแบ่งปันอำนาจและผลประโยชน์ระหว่างนักการเมืองบางกลุ่ม กองทัพ กลุ่มทุน และชนชั้นนำ
กลุ่มประชาสังคมฯ เชื่อว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนและการปฎิรูปการเมืองไม่อาจได้มาโดยการก่อรัฐประหารของกองทัพ แต่ได้มาโดยกระบวนการประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วม และประชาชนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพียงใด
พร้อมทั้งขอสนับสนุนบทบาทของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ที่กล้าหาญนำเสนอข้อเสนอ จุดยืน และกระบวนการที่ชัดเจน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการพาสังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตการณ์ ปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่หมักหมมมานานกว่าทศวรรษไปสู่สังคมที่ดีกว่า
โดยขอให้ช่วงเวลานับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้ของสังคมไทย เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ได้แสดงความคิดเห็น เสนอข้อมูล และทางออกอย่างเปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมา และร่วมกันต่อต้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ผ่านกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมใหม่ โดยกระบวนการประชาธิปไตย ด้วยสันติวิธี และวิถีการพัฒนาที่ยั่งยืน