เสวนาออนไลน์ “ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องได้รับวัคซีน (ที่มีคุณภาพ!)”

เนื่องจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้มีแผนรับมือวิกฤตโควิดด้วยการฉีดวัคซีน โดยแบ่งประชาชนออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 1.2 ล้านคน 2) บุคลากรด่านหน้า 1.8 ล้านคน 3) บุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค 4.3 ล้านคน 4) ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11.7 ล้านคน และ 5) กลุ่มที่มีอายุ 18-59 ปี

กระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้จะเป็นวันแรกที่ภาครัฐเปิดให้จองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผ่านไลน์ ‘หมอพร้อม’ โดยจะเปิดโอกาสให้เฉพาะประชาชนกลุ่มที่ 3) และ 4) ได้ลงทะเบียน และจะฉีดจริงภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 ส่วนประชากรกลุ่มที่ 5) ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไป รัฐเปิดให้ลงทะเบียนในเดือนกรกฎาคม จะเริ่มฉีดจริงในเดือนสิงหาคม และไม่ได้ให้คำตอบว่าจะฉีดให้เสร็จสิ้นได้ภายในเมื่อไร

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เห็นว่า การฉีดวัคซีนให้ได้ผล (สร้างภูมิคุ้มกันหมู่) จะต้องฉีดไม่ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งไม่น่าจะทันการ อีกทั้งที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ายิ่งปล่อยเวลาให้ทอดยาวออกไป รัฐบาลก็ยิ่งล้มเหลวในการแก้ไขภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ มีผู้เสียชีวิตโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้ารับการตรวจ และมีผู้เสียชีวิต หรือได้รับอันตรายถึงชีวิตจากการฉีดวัคซีนแล้วหลายราย

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, สถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม Just Economy and Labor Institute และ We Fair. จึงจัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ “ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องได้รับวัคซีน (ที่มีคุณภาพ!)” ขึ้น เพื่อสร้างความรับรู้และเปิดบทสนทนาเรื่องวัคซีน เรียกร้องต่อรัฐให้เปิดเผยความเสี่ยง ผลกระทบ รวมถึงผลข้างเคียง หลังจากฉีดวัคซีนอย่างตรงไปตรงมา และหันมาดูแลประชาชนด้วยการเร่งฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมข้างต้น ในวันที่ 30 เมษายน 2564 เวลา 18.30-20.30 น. ผ่าน เพจ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active