สมัชชาคนจน รุดคืบ ศธ. เผชิญหน้าตำรวจ ย้ำสิทธิชุมนุมทำได้ ไร้วี่แววรัฐบาลรับฟัง

เช้ามืดวันนี้ ‘สมัชชาคนจน’ รุดคืบ ปักหลักข้าง ศธ. เผชิญหน้าตำรวจตั้งแนวโล่สกัด ขอให้กลับไปจุดเดิมที่หน้า UN ยื้อยุดอยู่ราว 3 ชั่วโมงก่อนสงบลง ด้านตัวแทน กป.อพช.อีสาน เผยข้อเรียกร้อง 35 กรณีปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไข รอเพียงพูดคุยกับภาครัฐ แต่ไร้วี่แววรัฐบาล-สส. ฝ่ายรัฐบาลเข้าเจรจา ล่าสุดการชุมนุมยังขาดห้องสุขา-ไร้น้ำใช้

วันนี้ (8 ตุลาคม 2566) เวลาประมาณ 05.00 น.ตำรวจราวสามกองร้อย เริ่มตั้งแนวสกัดขบวนผู้ชุมนุมสมัชชาคนจน ที่เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ ถนนลูกหลวงได้ ต่อมาเมื่อ เวลา 05.30 น. สมัชชาคนจนเริ่มจัดขบวนและเดินเท้าเข้ามายังบริเวณแนวรั้วเหล็กและแนวตำรวจพร้อมโล่กำบัง ในขณะที่ตำรวจได้ประกาศแจ้งว่า ตำรวจไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และขอให้กลับไปยังบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN)

ด้านสมัชชาคนจนระบุว่า ตำรวจยังปักหลักและไม่มีท่าทีเก็บกำแพงสังกะสี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมที่กำลังทยอยเดินทางมาถึง นับเป็นการปิดกั้นและขัดขวางการแสดงออกของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าทางตำรวจจะยืนยันว่า จะไม่มีการสลายการชุมนุม แต่ทางด้านขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ใช้กฏหมายมาปิดกั้นสิทธิ เสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน

หลังยื้อยุดกันร่วม 3 ชั่วโมงระหว่างฝั่งเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม สถานการณ์ก็คลี่คลายลง โดยทางผู้ชุมนุมร่วม 2,000 คน ปักหลักบริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ และเริ่มประกอบอาหารสำหรับมื้อเที่ยง เนื่องจากเกิดเหตุชุลมุนตั้งแต่เช้าจนยังไม่ได้กินข้าว ด้านไพฑูรย์ สร้อยสด โฆษกสมัชชาคนจน ระบุว่า ห่วงความเป็นอยู่ผู้ชุมนุม เนื่องจากขาดแคลนที่พักอาศัย ไร้น้ำใช้ ไร้รถสุขา ล่าสุดได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ขอให้ช่วยอำนวยความสะดวก ขณะที่วันนี้จะมีผู้ชุมนุมลงมาสมทบเพิ่มอีก 200 คน

สำหรับข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจน ไพฑูรย์ ระบุว่าทางสมัชชารวบรวมกรณีปัญหา 35 กรณีพร้อมแนวทางแก้ไขปัญหา เน้นหนักไปที่เรื่องสิทธิพื้นที่ทำกิน เหลือเพียงฟากรัฐบาลส่งตัวแทนมาเจรจาหาทางออกร่วม แต่ยังไร้วี่แวว แม้กระทั่ง สส. ฟากรัฐบาลที่พี่น้องผู้ชุมนุมหลายคนเลือกมา ก็ยังไม่ได้ลงมาพูดคุยอย่างจริงจัง ประกอบกับท่าทีสกัดกั้นของทางเจ้าหน้าที่ ทำให้เป็นห่วงว่าข้อเรียกร้องจะขับเคลื่อนได้ยากขึ้น

“ย้อนกลับไปเมื่อปี 62 เราก็มาชุมนุมแบบนี้ ที่เดิมเลย แต่ก็มีคนจากภาครัฐออกมาพูดคุย แต่ครั้งนี้ไม่เห็นสัญญาณท่าทีจากรัฐบาลเลย สส. ก็ยังไม่ออกมาด้วยซ้ำ เราคาดหวังว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะตอบสนองข้อเรียกร้องของประชาชนได้ดีกว่ารัฐบาลจากการรัฐประหาร ถ้าเขาจริงใจก็แก้ไข ก็ขยับตัวหน่อย อย่าเฉื่อยชา”

ไพฑูรย์ สร้อยสด

ไพฑูรย์ยืนยันว่า การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุม และยังไม่เห็นเหตุจำเป็นที่จะต้องส่งกองกำลังตำรวจลงมาประชิดขนาดนี้ คนในกลุ่มส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สูงวัย พวกเขายังไม่ได้พักผ่อนดีเลยด้วยซ้ำ และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอติดตามว่าทางภาครัฐจะส่งใครมาเจรจาแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องเดิมที่เรื้อรังมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active