ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟเขตราชเทวี ชี้จุดสร้างบ้านพักชั่วคราว เร่งย้าย 19 หลังนำร่อง ออกจากพื้นที่ก่อสร้าง
วันนี้ (7 ก.ค. 65 ) นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่ชุมชนบุญร่มไทร เขตราชเทวี กทม. หารือร่วมกับเครือข่ายชุมชนเมืองผู้ได้รับผลกระทบรถไฟ (ชมฟ.) กรณี การรถไฟทวงคืนพื้นที่ริมทางรถไฟ เพื่อพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา ซึ่งในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้จะมีการรื้อย้ายสาธารณูปโภคเพื่อเตรียมก่อสร้างโครงการดังกล่าว ทำให้ต้องมีการรื้อย้ายบ้านเรือนบางส่วนในชุดแรก
นิรุต กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการใหญ่ระดับประเทศ จะช่วยสร้างความเจริญและมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือกัน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ต้องอาศัยความร่วมมือให้รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างบางส่วนที่กีดขวางการพัฒนา อย่างไรก็ตามตนยืนยันที่จะรักษาผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างประชาชนและรัฐ และให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
“โครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการที่ต้องอาศัยทุกภาคส่วน รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงมาถึงและเกิดขึ้น สำคัญคือทำยังไงให้กระทบน้อยที่สุด ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย อยากให้พี่น้องอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น สเตปแรกจัดพื้นที่ก่อน จะทำให้ค่าเช่าต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เข้าใจว่าเงินที่ใช้จ่ายมีความสำคัญต่อพวกเรา และเป็นชุมชนที่อยู่คู่กับทางรถไฟ”
นิรุต ย้ำว่า ตนมีหมวกที่เรียกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในบทบาทของผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ถ้าไม่จัดการแก้ปัญหาและทำให้โครงการของรัฐพัฒนาได้จะเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ กรณีที่ต้องสั่งให้รื้อย้ายบ้านเรือนชุดแรก 19 หลัง จะจัดให้อยู่ในบ้านพักชั่วคราวสร้างใหม่ใกล้กับที่ดินเดิม ซึ่งชาวบ้านเสนอให้คิดราคาค่าเช่า 20 บาทต่อเมตรต่อปี เพื่ออาศัยชั่วคราว เรื่องนี้ทางการรถไฟไม่รับปากว่าจะอนุมัติในหลักการ
“ต้องพิจารณาจากกฎหมายและระเบียบ ทำได้เท่าที่ทำได้ เกินขอบของกฎหมายทำไม่ได้ เราจะหาจุดที่ดีที่สุด ที่ทำให้พวกเราไม่ต้องลำบาก เมื่อพวกเรายินดีให้ความร่วมมือ ส่วนของการรถไฟ คิดเสมอว่า อยากทำให้เรื่องนี้อยู่ในสถานการณ์ที่เดือดร้อนน้อยที่สุด ข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้ไปคุยกัน ยืนยันว่าขอทำให้ดีที่สุด…. พี่น้องเดือดร้อนจริงเราจะช่วย แต่ต้องไม่ใช่กาฝากมาแฝงตัว เราไม่ยอมให้ใครมาหาผลประโยชน์ของพี่น้องเด็ดขาด และจะดำเนินการตามนั้น”
สำหรับชาวบ้านชุมชนบุญร่มไทร ได้มีแผนย้ายออกจากพื้นที่ถาวร ไปยังบริเวณบึงมักกะสัน ที่ดินการรถไฟ ในโครงการบ้านมั่นคง และจะดำเนินการก่อสร้างอาคารโดยการเคหะแห่งชาติ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการหารือเรื่องค่าใช้จ่าย หากลงตัวแล้วจะเดินหน้าก่อสร้าง เพื่อให้ชาวบ้านได้มีที่พักอาศัยมั่นคงต่อไป
“กระบวนการของการเคหะฯ ในการสร้างอาคารขนาดใหญ่ ต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย อีไอเอ พิจารณาที่ตั้ง หารือกับสำนักการระบายน้ำ สำนักการทางพิเศษ วันนี้ผู้แทนชุมชนยังต้องคุยเรื่องราคา ยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่ากว่าจะลุล่วงทั้งหมด ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี”
ตัวแทน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)